Story จุดเริ่มต้นของ Bas & Mr.Balon

Last updated: 8 ก.พ. 2566  |  627 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Story จุดเริ่มต้นของ Bas & Mr.Balon

เห็นผมแบบนี้ ผมเองก็อยากมี Story เหมือนกัน Bas&Mr.Balon ผมคิดว่ากำลังมีคนสนใจผมอยู่

เริ่มเลยน่ะครับ

ผมชื่อ ศุภชาติ ลิขิตพันธกุล ชื่อเล่นชื่อบาส อายุ 38 ปี

ผมอยู่ในวงการตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ 11-14 ปีน่าจะได้ทำมาตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ ป.ตรี ผมจบปริญญาตรีจากพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สาขาเทคโนโลยีการผลิต (การวางแผนการผลิตและขั้นตอนต่างๆในโรงงาน) ชอบการตกแต่งสิ่งของทุกอย่างที่มีล้อ จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ย้อนไปเมื่อ 20 ปี ที่บ้านผมทำแท็กซี่ มีอยู่ 10 คัน น่าจะได้ พ่อผมเองก็ซ่อมรถให้พวกผมสามคนพี่น้องเห็นอยู่ทุกวัน ดังนั้นไม่แปลกที่ผมจะมีความรู้ด้านเทคนิคตั้งแต่เล็ก ส่วนแม่ก็ค้าขาย ขายทุกอย่างที่ได้เงินก็ไม่แปลกที่ผมจะขายของเก่งตั้งแต่เล็ก ธุรกิจแรกที่ผมเริ่มทำคือรถบังคับวิทยุ (รถกระป๋องบังคับ) เริ่มจากเล่นเองเช่นกันมีคนล่ะ 4-5 คัน ต่อคน 3 คนพี่น้องก็ปาเขาไปเป็น10กว่าคัน ยังไงล่ะเปิดร้านมันเลย ไม่คิดว่าของเด็กเล่นจะทำเงินได้รวดเร็วเป็นแสนๆในระยะเวลา 1 ปี จากนั้นเริ่มมีทุน เริ่มศึกษาเกี่ยวกับอะไหล่แต่งมอเตอร์ไซค์มั่ง แต่เป็นเรื่องยากมาช่วงแรกเพราะ พ่อกับแม่ผมไม่เคยคิด หรือสนับสนุนในการซื้อมอไซค์เข้าบ้าน การทำความเข้าใจกับรถมอเตอร์ไซค์และความต้องการของผู้บริโภคเลยต้องใช้เวลาอยู่หลายปี แต่จุดนั้นเข้ามาถูกจังหวะ คือจุดเริ่มต้นของรถสายพานตัวแรกซึ่งน้อยคนนักที่จะกล้าไปข้องเกี่ยวกับมันเพราะเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับคนไทย พ่อผมเห็นว่าพวกผมเคยประสบความสำเร็จจากธุรกิจรถบังคับมาแล้วก็เลย ออกจากงาน และนำเงินทั้งหมดระดมมาร่วมทุนในการเปิดธุรกิจตกแต่งมอไซค์ ด้วยโอกาสและแรงสนับสนุนของคนที่บ้าน ทำให้ร้านผมมีรายได้และมีชื่อเสียงอันรวดเร็วได้ภายในเวลาไม่กี่ปี จาก 1 สาขา เป็น 2 3 สาขาโดยบริหารงานโดย พี่น้องผมเอง จนถึงทุกวันนี้


มาอ่านเรื่องของปัจจุบันมั่ง ผมออกมาเปิดร้านเอง ออกจากกงสีที่บ้าน เพราะต้องการ สร้างเนื้อสร้างตัวแบบรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์ทุกอย่างที่มี 10 ปี โดยใช้ชื่อ Likitscooter เจาะกลุ่มตลาดรถแฟชั่นทุกรุ่นที่มี ผมชอบทำรถใหม่เพราะอะไร...ทั้งที่ความเสี่ยงที่จะเจ๊งมีมาก ตลาดรถยังไม่เริ่มเดินเลย คือผมชอบเสี่ยง ผมชอบอะไรใหม่ๆ และที่สำคัญผมเข้าใจผู้บริโภคโดยใช้ตัวเองเป็นหลัก ผมว่ารถใหม่ๆป้ายแดง เป็นอะไรที่ใครหลายต่อหลายคนเห่อมาก ไม่ว่าของแพงแค่ไหน หายากมากเท่าไรเค้าก็จะเอา ทั้งล้างรถ เคลือบสี เป็นว่าช่วงของความอยากแบบสุดของคนจะเริ่ม 2-3 เดือนแรกเริ่มจากได้รถใหม่ ไม่ว่า มอไซค์ รถยนต์ นาฬิกา และอื่นๆเป็นอะไรที่เห่อมาก แต่หลังจากนั้นปล่อยมันเลย ล้างยังไม่อยากจะล้างเลย
ผมมีเว็ปไซ มีเฟสบุ๊ค ทางสื่อต่างๆทุกช่องทางแม้กระทั่งนิตยสารแต่งรถทั่วไป ผมเองชอบอะไรใหม่ๆ ผมโชคดีกว่าร้านอื่นตรงที่ ผมสามารถเข้าไปดิวกับผู้ใหญ่ระดับสูงของบริษัทแม่ เช่น Honda Yamaha รู้จักได้ไง........ ผมเข้าร่วมประกวดรถในรุ่นต่างๆมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว และก็ได้รับรางวัล 1 ใน 10 มาตลอด ทางผู้ใหญ่ของบริษัทใหญ่ก็เข้ามาพูดคุยจะรู้จักและสนิทกัน เมื่อเวลามีรถตัวใหม่ออกมาผมเลยมีโอกาสทำและตกแต่ง ก่อนร้านทั่วไป รวมถึงดีลเลอร์ขายรถด้วยซ้ำ ดังนั้นรูปแบบ ของชิ้นส่วน ในแต่ล่ะส่วนผมจึงมีโอกาสได้เห็นและผลิตก่อนใคร เมื่อวันรถใหม่เปิดตัว รถที่ผมทำได้มีโอกาสไปโชว์ตามงานใหญ่ และที่สำคัญผมมีอะไหล่แต่งก่อนใคร คิดก่อน ทำก่อน ขายก่อน ธุรกิจของผมต้องการเป็นผู้นำแฟชั่น นอกจากรายได้ และผมต้องการชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดี ชอบคำชม มีความสุขมากที่เห็นชิ้นงานของตัวเองอยู่ตามท้องถนน ในเมื่อแฟชั่นมันย่อมมาเร็วไปเร็ว แต่ตลาดกรุงเทพจะก้าวนำตลาดต่างจังหวัดอยู่ 1 ก้าวเสมอดังนั้นเรื่องของค้างสต๊อกไม่มีหรือมีน้อยมาก ในการออกแบบหรือเลือกของมาขาย ทุกอย่างจะถูกคัดสรรจากผมและทีมงานทุกชิ้น โดยใช้คติประจำใจว่า เราชอบแบบไหนเค้าก็ชอบแบบนั้น เรารับไม่ได้กับสิ่งไหนเค้าก็รับไม่ได้เหมือนกัน เป็นว่าผมเข้าใจลูกค้าดีมาก ว่าเค้าต้องการอะไร ทั้งรวยมากหรือจนโครตๆ หรือเรื่องมากสุดๆ การบริการ และตัวสินค้า เราจะวารัณตรีแบบที่ร้านอื่นไม่กล้าทำ ด้วยความที่เรามั่นใจในของที่เราเลือกเราผลิตมาขาย โดยใช้ประโยคสั้นๆบอกกับลูกค้าเสมอว่า (ซื้อของทุกชิ้นที่ร้าน ไม่ดี ไม่ต้องจ่ายเงิน) จึงมีลูกค้าจำนวนมากมั่นใจและไว้วางใจในการทำงานของผม และก็คำพูดพวกนี้ที่ทำให้ผมมั่นใจว่ามีลูกค้าตามผมมาไม่ว่าผมจะเป็น LIKIT LIKITRACING LIKITSCOOTER หรือ MR.BALON

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้